290 จำนวนผู้เข้าชม |
การวัด "Carbon Footprint" ของสินค้า หรือวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกไปในสภาพแวดล้อมจากการผลิตสินค้า เริ่มตั้งแต่การเก็บเกี่ยววัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน และการกำจัดสินค้า ทำให้ได้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้:
1. เพิ่มความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม: การทราบถึง Carbon Footprint ของสินค้าจะช่วยให้ผู้ผลิตมีการใส่ใจมากขึ้นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทำให้สามารถค้นหาวิธีที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตสินค้าของตนเองได้
2. ประหยัดค่าใช้จ่าย: ในการลด Carbon Footprint บางทีก็อาจหมายถึงการลดการใช้พลังงาน หรือการใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสามารถทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิตได้
3. เพิ่มมูลค่าในตลาด: สินค้าที่มี Carbon Footprint ต่ำสามารถเพิ่มมูลค่าในตลาดได้ เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
4. ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค: ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมักจะให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การทราบถึง Carbon Footprint ของสินค้าของตนเองจะทำให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
5. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณะ: การทำให้สินค้ามี Carbon Footprint ที่ต่ำสามารถทำให้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณะ และสามารถเพิ่มความเชื่อถือได้ในตลาด
6. การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น: การทราบถึง Carbon Footprint ของสินค้าสามารถช่วยในการปรับปรุงกระบวนการผลิต และการจัดการวัตถุดิบ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น.